Baan Phluang Sanctuary ปราสาทบ้านพลวง ปราสาทหินทรายสีขาว มีความงดงามยิ่ง ของจังหวัดสุรินทร์
ปราสาทบ้านพลวง(Baan PhluangSanctuary) ต.บ้านพลวง อ. ปราสาท จ.สุรินทร์
เป็นปราสาทหินทรายสีขาวทั้งหลัง
ตั้งบนฐานศิลาแลงล้อมรอบด้วยคูน้ำวางผังเป็นรูปตัวยู
เป็นศิลปะสมัยบาปวน(Baphuon)ราวพ.ศ.๑๕๖๐-๑๖๓๐
สร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
มีประตูทางเข้าทางเดียวทางทิศตะวันออกมีทับหลังที่แกะสลักงดงามเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
ทิศเหนือสลักเป็นพระศิวะปราบนาคกาลิยะ
ส่วนทางทิศตะวันตกยังแกะสลักไม่เสร็จ
ปราสาทหลังนี้ในปีพ.ศ.๒๕๑๔-๒๕๑๖ นายแวนส์ เรย์ ชิลเดรส(Mr. Vance R. Childress)
นักศึกษามหาวิทยาลัยคอร์แนล ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ปรับปรุงบูรณะใหม่โดยเทคนิคอนาสติโลซีส (Anastylosis) คือรื้อออกทั้งหมดแล้ว
นำหินมาเรียงใหม่ตามเดิม ได้เสริมฐานและส่วนชำรุดด้วยหินใหม่
พิจารณาเห็นร่อง
รอยของภาพแกะสลักนางอัปสราคู่กับทวารบาล แต่ไม่สมบูรณ์เห็นเพียงร่าง
น่าเสียดายครับ ไม่ได้เห็นนางอัปสรา
ของปราสาทบ้านพลวงว่าจะมีลักษณะงดงามเท่าปราสาทศีขรภูมิหรือไม่ ครับ
เพชรเม็ดงามที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้คู่เมืองสุรินทร์ นั่นคือ
ปราสาทศีขรภูมิเป็นปราสาทอิฐ๕องค์
ตั้งบนฐานศิลาแลงหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
เสากรอบประตูเป็นหินทรายสลักลวดลายวิจิตรงดงาม
ปรางค์ประธานทับหลังสลักเป็นภาพ
ศิวนาฎราชสิบกรร่ายรำเหนือหงส์๓ตัวยืนบนหน้ากาล
ด้านล่างสลักเป็นเทพทรงดนตรีประกอบจังหวะ
จากลวดลายสลักเป็นศิลปะขอมแบบบาปวนพ.ศ.๑๕๐๐-๑๖๕๐และแบบนครวัดพ.ศ.๑๖๕๐-๑๗๐๐เป็นเทวสถานศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายและต่อมาพุทธศตวรรษที่๒๒ปรับปรุงเป็นวัดของพุทธศาสนา ปรากฎจารึกอักษรธรรมบนกรอบประตูในปรางค์องค์รองไว้ชัดเจนครับ
ความเชื่อเรื่อง "การกวนเกษียรสมุทร" นี้
ทำให้เกิดนางอัปสรหรือนางอัปสราขึ้น ครับ
ทำให้เกิดนางอัปสรหรือนางอัปสราขึ้น ครับ
การกวนเกษียรสมุทร เกิดจากอวตารหนึ่งของพระนารายณ์อวตารเป็นเต่า
รอรับเขามัทระเพื่อกวนทำน้ำอมฤตเมื่อดื่มแล้วจะเป็นอมตะ
ใช้พญานาควาสุกรีเป็นเชือกพันภูเขา
ให้ยักษ์ชักทางหัวนาคเทวดาชักทางหาง
เกิดสิ่งของวิเศษขึ้นได้แก่โคสุรภีเทพีแห่งสุราชื่อวารุณี ต้นปาริชาต ช้างเอราวัณ ม้าอุจไฉยศรพ นางอัปสร พระจันทร์ ดอกบัวภายในมีพระลักษมี พิษร้าย และน้ำอมฤต ไทยเรียกการกวนเกษียรสมุทรว่า"ชักนาคดึกดำบรรพ์"
(การแสดงประกอบ แสง สี เสียง ปราสาทศีขรภูมิในงานช้างสุรินทร์ปี2556
โดยโรงเรียนศีขรภูมิพิสัย เรื่อง ศิวนาฎยคีตา ศรีศิขรินทราเทวาล้ยครับ)
story&photo by อ.สุดใจ สะอาดยิ่ง
(โปรดติดตามการลงข้อมูล ปราสาทสด๊กก๊อกธม อ.โคกสูง จ.สระแก้ว)