ตอนที่2 อารัมภบท 90ปี ชาตกาล ครูบำรุง ใจสมุทร 90ปี การก่อตั้งสกุล ใจสมุทร
เนื่องในวาระที่คุณพ่อบำรุง ใจสมุทร มีชาตกาลครบ90ปี ในวันที่23กันยายน2547และสกุล ใจสมุทร ได้ก่อตั้งครบ90ปี
ผมได้ปรึกษาหารือพี่ๆน้องๆว่า เราควรจะได้มีสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ไว้ เพื่อให้ลูกหลานเหลนและคนในวงศ์ตระกูล ได้ระลึกถึงพระคุณของคุณพ่อ ตลอดจนบรรพบุรุษทั้งหลายที่ท่านได้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งได้ก่อตั้งเผ่าพงษ์วงศาแผ่ขยายมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เลือดเนื้อเชื้อไขได้มีที่ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หลวงต่างใจราษฎร์ กรมการเมืองนครศรีธรรมราช ผู้ที่เป็นต้นแห่งวงศ์ตระกูลใจสมุทร ซึ่งได้สืบทอดความเป็นข้าราชการมาจากบิดา
และถ่ายทอดลงมาจนถึงบรรดาทายาทในปัจจุบัน อันนับได้ว่าเป็นชั่วอายุคนที่10
โดยได้สืบทอดความเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวติดต่อกันมาถึง9ชั่วอายุคนแล้ว
ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของผู้ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของใจสมุทร ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ใช้นามสกุลใดก็ตาม และถึงวันนี้ หลวงต่างใจราษฎร์ก็ถือกำเนิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า200ปี
ด้วยเหตุแห่งดำริดังกล่าวข้างต้น ผมจึงตกลงใจที่ทำหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้ขึ้นมา เพราะหนังสือเป็นสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆได้เป็นอย่างดีกว่าสื่ออื่น บุคคลทั่วไปมีโอกาสอ่านและอ้างอิงข้อเท็จจริงได้ ทั้งยังเก็บไว้ได้ยาวนาน หากผู้ครอบครองเป็นผู้รักหนังสือและ สนใจในความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์
เนื้อหาสาระสำคัญในหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้ ส่วนใหญ่นำมาจากหนังสือที่ผมเขียนและพิมพ์จำหน่ายมาแล้วคือ "เจ้าพระยานคร(น้อย) วีรรัฐบุรุษแห่งทักษิณ" "ตรัง เมืองท่าโบราณสองพันปี นายกรัฐมนตรีสองยุค" แต่อีกส่วนหนึ่งได้รับความอนุเคราะห์อย่างยิ่งจากท่านผู้หญิงลดาวัลย์ สมันตรัฐ อนุญาตให้นำประวัติของ พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ มาลงพิมพ์ไว้ และอีกส่วนหนึ่งได้มาจากหนังสือ"บรรพบุรุษใจสมุทร"ที่ผมเคยพิมแจกในบรรดาญาติพี่น้อง
เหตุที่ผมนำเรื่องราวของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์มาลงพิมในหนังสืออนุสรณ์นี้ ก็เพราะท่านเหล่านั้น นอกจากจะมีความสำคัญโดยตัวของท่านเองแล้ว ท่านยังเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ของตระกูลใจสมุทรด้วย
ผมจึงมีความปราถนาที่จะยกย่องที่จะยกย่องเชิดชูท่านให้เป็นที่ประจักษ์ ให้บุคคลในวงศ์ตระกูล ตลอดจนบุคคลทั่วไป ได้จารึกคุณงามความดีของท่านไว้ชั่วกาลนาน โดยไม่ยอมให้กาลเวลามากัดกร่อนความทรงจำดีๆในอดีตให้ลืมเลือนไป
ผมขอกราบขอบพระคุณ"ตระกูล ณ นคร"และ"ตระกูล สมันตรัฐ" ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลใจสมุทรในปัจจุบัน
และสำหรับ"ตระกูล ณ ระนอง" ขอขอบพระคุณที่ พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ได้ทุ่มเทพัฒนาเมืองตรังอันเป็นมาตุภูมิของผมจนมีความเจริญรุ่งเรือง และเป็นรากฐานให้บ้านเมืองได้พัฒนาต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยในห้วงเวลาหนึ่ง
หลวงบำรุงชลธี ต้นตระกูลใจสมุทรท่านหนึ่ง ก็เคยได้รับราชการอยู่กับเจ้าเมืองตรังท่านนี้ แม้จะเป็นเวลาสั้นๆก็ตาม
หนังสืออนุสรณ์เล่มนี้ นอกจากจะเป็นสักขีพยานที่แสดงถึงความกตัญญูกตเวที ที่ลูกหลานมีต่อคุณพ่อ ซึ่งเป็นผู้ให้ชีวิตที่มีค่ายิ่งแก่พวกเรา ยังแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีที่เลือดเนื้อเชื้อไขใจสมุทรที่มีต่อบรรพบุรุษทั้งหลายผู้ก่อตั้งวงศ์ตระกูล ตลอดจนมีต่อแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนคือจังหวัดตรัง ซึ่งบรรพบุรุษท่านหนึ่งคือ
หลวงสมุทธโยธี ได้หลั่งเลือดทาแผ่นดินสละชีวิตเพื่อแผ่นดินตรังมาแล้วในกบฏวันหมาดหลี และจังหวัดตรังยังมีความเป็นภูมิลำเนาของเลือดเนื้อเชื้อไขใจสมุทรส่วนใหญ่อยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ แม้ว่าใจสมุทรรุ่นต่อๆมาจำนวนไม่น้อย จะได้แยกย้ายกันไปตั้งถิ่นฐานบ้านเรือยอยู่ทั่วราชอาณาจักร ไม่ว่าจังหวัดสตูล จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่ทุกคนยังไม่ลืมบ้านเกิดเมืองนอน และบรรพบุรุษของตน ไม่ว่าเมื่อไหร่และสถานการณ์ใดก็ตาม
นายยืนหยัดใจสมุทร
23กันยายน2547
ที่มาของบทความ
เจ้าพระยานคร(น้อย) โอรสลับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ เจ้าเมืองตรังยอดพัฒนา
พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
พิมพ์เป็นอนุสรณ์ 90ปี ชาตกาล ครูบำรุง ใจสมุทร
90ปี การก่อตั้งสกุล ใจสมุทร
200ปี หลวงต่างใจราษฎร์ ต้นตระกูล ใจสมุทร
(โปรดติดตาม ตอนที่3)
ผมได้ปรึกษาหารือพี่ๆน้องๆว่า เราควรจะได้มีสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ไว้ เพื่อให้ลูกหลานเหลนและคนในวงศ์ตระกูล ได้ระลึกถึงพระคุณของคุณพ่อ ตลอดจนบรรพบุรุษทั้งหลายที่ท่านได้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งได้ก่อตั้งเผ่าพงษ์วงศาแผ่ขยายมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เลือดเนื้อเชื้อไขได้มีที่ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หลวงต่างใจราษฎร์ กรมการเมืองนครศรีธรรมราช ผู้ที่เป็นต้นแห่งวงศ์ตระกูลใจสมุทร ซึ่งได้สืบทอดความเป็นข้าราชการมาจากบิดา
และถ่ายทอดลงมาจนถึงบรรดาทายาทในปัจจุบัน อันนับได้ว่าเป็นชั่วอายุคนที่10
โดยได้สืบทอดความเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวติดต่อกันมาถึง9ชั่วอายุคนแล้ว
ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของผู้ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของใจสมุทร ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ใช้นามสกุลใดก็ตาม และถึงวันนี้ หลวงต่างใจราษฎร์ก็ถือกำเนิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า200ปี
ด้วยเหตุแห่งดำริดังกล่าวข้างต้น ผมจึงตกลงใจที่ทำหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้ขึ้นมา เพราะหนังสือเป็นสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆได้เป็นอย่างดีกว่าสื่ออื่น บุคคลทั่วไปมีโอกาสอ่านและอ้างอิงข้อเท็จจริงได้ ทั้งยังเก็บไว้ได้ยาวนาน หากผู้ครอบครองเป็นผู้รักหนังสือและ สนใจในความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์
เนื้อหาสาระสำคัญในหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้ ส่วนใหญ่นำมาจากหนังสือที่ผมเขียนและพิมพ์จำหน่ายมาแล้วคือ "เจ้าพระยานคร(น้อย) วีรรัฐบุรุษแห่งทักษิณ" "ตรัง เมืองท่าโบราณสองพันปี นายกรัฐมนตรีสองยุค" แต่อีกส่วนหนึ่งได้รับความอนุเคราะห์อย่างยิ่งจากท่านผู้หญิงลดาวัลย์ สมันตรัฐ อนุญาตให้นำประวัติของ พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ มาลงพิมพ์ไว้ และอีกส่วนหนึ่งได้มาจากหนังสือ"บรรพบุรุษใจสมุทร"ที่ผมเคยพิมแจกในบรรดาญาติพี่น้อง
เหตุที่ผมนำเรื่องราวของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์มาลงพิมในหนังสืออนุสรณ์นี้ ก็เพราะท่านเหล่านั้น นอกจากจะมีความสำคัญโดยตัวของท่านเองแล้ว ท่านยังเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ของตระกูลใจสมุทรด้วย
ผมจึงมีความปราถนาที่จะยกย่องที่จะยกย่องเชิดชูท่านให้เป็นที่ประจักษ์ ให้บุคคลในวงศ์ตระกูล ตลอดจนบุคคลทั่วไป ได้จารึกคุณงามความดีของท่านไว้ชั่วกาลนาน โดยไม่ยอมให้กาลเวลามากัดกร่อนความทรงจำดีๆในอดีตให้ลืมเลือนไป
ผมขอกราบขอบพระคุณ"ตระกูล ณ นคร"และ"ตระกูล สมันตรัฐ" ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลใจสมุทรในปัจจุบัน
และสำหรับ"ตระกูล ณ ระนอง" ขอขอบพระคุณที่ พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ได้ทุ่มเทพัฒนาเมืองตรังอันเป็นมาตุภูมิของผมจนมีความเจริญรุ่งเรือง และเป็นรากฐานให้บ้านเมืองได้พัฒนาต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยในห้วงเวลาหนึ่ง
หลวงบำรุงชลธี ต้นตระกูลใจสมุทรท่านหนึ่ง ก็เคยได้รับราชการอยู่กับเจ้าเมืองตรังท่านนี้ แม้จะเป็นเวลาสั้นๆก็ตาม
หนังสืออนุสรณ์เล่มนี้ นอกจากจะเป็นสักขีพยานที่แสดงถึงความกตัญญูกตเวที ที่ลูกหลานมีต่อคุณพ่อ ซึ่งเป็นผู้ให้ชีวิตที่มีค่ายิ่งแก่พวกเรา ยังแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีที่เลือดเนื้อเชื้อไขใจสมุทรที่มีต่อบรรพบุรุษทั้งหลายผู้ก่อตั้งวงศ์ตระกูล ตลอดจนมีต่อแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนคือจังหวัดตรัง ซึ่งบรรพบุรุษท่านหนึ่งคือ
หลวงสมุทธโยธี ได้หลั่งเลือดทาแผ่นดินสละชีวิตเพื่อแผ่นดินตรังมาแล้วในกบฏวันหมาดหลี และจังหวัดตรังยังมีความเป็นภูมิลำเนาของเลือดเนื้อเชื้อไขใจสมุทรส่วนใหญ่อยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ แม้ว่าใจสมุทรรุ่นต่อๆมาจำนวนไม่น้อย จะได้แยกย้ายกันไปตั้งถิ่นฐานบ้านเรือยอยู่ทั่วราชอาณาจักร ไม่ว่าจังหวัดสตูล จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่ทุกคนยังไม่ลืมบ้านเกิดเมืองนอน และบรรพบุรุษของตน ไม่ว่าเมื่อไหร่และสถานการณ์ใดก็ตาม
นายยืนหยัดใจสมุทร
23กันยายน2547
ที่มาของบทความ
เจ้าพระยานคร(น้อย) โอรสลับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ เจ้าเมืองตรังยอดพัฒนา
พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
พิมพ์เป็นอนุสรณ์ 90ปี ชาตกาล ครูบำรุง ใจสมุทร
90ปี การก่อตั้งสกุล ใจสมุทร
200ปี หลวงต่างใจราษฎร์ ต้นตระกูล ใจสมุทร
(โปรดติดตาม ตอนที่3)