UTHAI THANI จังหวัดอุทัยธานี ไม่ควรพลาด เมื่อเดินทางจากภาคใต้ ผ่านขึ้นเที่ยวภาคเหนือ เมื่อยามหน้าหนาว เพราะมีดอกไม้เมืองหนาวบนยอดเขา

THAM KHAO WONGวัดถ้ำเขาวง สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดอุทัยธานีอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาอุทัยธานี

วัดถ้ำเขาวง เป็นสถานที่เที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งของจังหวัดอุทัยธานี อยู่ที่อำเภอบ้านไร่ เป็นวัดที่มีบ้านเรือนไทยสวยที่สุดได้ลงนิตยสารหลายเล่ม both Templeสถานที่น่าท่องเที่ยวในเมืองอุทัยธานี ที่ทุกคนมาแล้วไม่น่าพลาด ถ่ายรูปอัฟลงเฟส แชร์ให้ทุกคนได้เห็นกันในโลกออนไลน์
แก่นมะกรูด ไม้ดอกและไม้ผลเมืองหนาว เช่นสตอเบอร์รี่

ผู้ที่จะนำเที่ยวในครั้งนี้คือ คุณเอ ดุษฎีวรรณ์ สาโรจน์ หญิงแกร่งแห่งลานสัก POWER OF LOVE พลังใจ ในวิถีไทย เป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังท้อหรือสิ้นหวัง ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว พลังใจสู้เพื่อแม่ เมื่อวิถีชีวิตต้องแปรเปลี่ยน ชะตาชีวิตที่ต้องลิขิตเอง พลังใจของผู้ชนะเท่านั้นที่จะผ่านบททดสอบของพระผู้เป็นเจ้าไปได้

พลังใจสายใยรัก คุณย่าชลอ วัย84ปี ผู้เป็นกำลังใจและเป็นตัวอย่างของพลังใจที่เข้มแข็ง แม้สายตาและพละกำลังที่เสื่อมถอยไป แต่ใจยังยิ้มสู้เป็นกำลังใจให้ลูกหลาน ถ้ามาอุทัยธานี ก่อนอื่นเลย เราต้องแวะเข้าไปชมตัวเมือง ซึ่งยังมีบ้านเรือน ที่ยังคงความเก่าแก่ ให้เราได้สัมผัส ถึงความโบราณ เหมือนกับย้อนยุคไปสักประมาณ 20 - 30 ปี ให้เราชม พร้อมกับอาหาร อร่อยที่น่าลิ้มลอง ซึ่งเราสามารถ ที่จะเดินชม ได้ตึกเก่าๆๆ
แถมในระแวก นั้น เรายังเดินไปชม ริมแม่นำสะแกกรัง ได้ ในบริเวณ ริมแม่น้ำสะแกกรังนี้ เราจะพบบ้านเรือนแพ ซึ่งยังเป็นวิถึชีวิต ที่เราหาดูได้อยากในปัจจุบัน เดินชมไปเพลินๆๆ เราจะพบวัดโบส ซึ่งจะอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ วัดนี้ มีความพิเศษ อยู่ที่โบส จะเป็นศิลปะ สมัยโปรตุเกตุซึ่งมีความงดงาม มากๆๆ ใครมาอุทัยแล้วไม่แวะชมโบสถ์ที่วัดแห่งนี้ ถึอว่ามาไม่ถึงอุทัยธานี
บ่อน้ำพุร้อน สมอทอง อยู่ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำสมอทอง บ้านสมอทอง ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี
บรรยากาศ สวยมากๆๆ แต่ต้องมาช่วงหน้าฝน หรือหน้าหนาวถึงจะดี เพราะว่าถ้ามาหน้าแล้ง น้ำจะน้อยมาก เพราะว่าอ่างเก็บน้ำนี้ขึ้นอยู่่กับกรมชลประทาน เค้าจะปล่อยน้ำ เพื่อไปให้ชาวบ้านทำนากัน ในช่วงหน้าแล้ง บริเวณบ่อน้ำพุร้อน จะมีบ่อน้ำแบ่งเป็นช่องๆๆ สำหรับให้เรานั่งแช่เท้า เพื่อผ่อนคลายความเหมื่อยล้ำ ได้ดีทีเดียว ราคาค่าบริการก็แสนจะถูก แค่ 10 บาท ต่อคน
ปกติแล้ว ที่บ่อน้าพุร้อนแห่งนี้ จะมีบ้านพักไว้ให้บริการ พักได้ประมาณสี่คน หลังละ 800 บาท ต่อคืน และมีห้องอาบน้ำแร่ ห้องใหญ่ แช่ได้ประมาณ 5 คน ราคาต่อห้อง ห้องละ100 บาท ห้องเล็ก อาบได้คนเดียว ราคาต่อห้อง ห้องละ 30บาท หรือถ้าใครสนใจจะแช่น้ำนม หรือว่าประคบ ก็เพิ่มอีกชุดละ 100 บาท เท่านั้น ซึ่งถือว่าถูกกว่า สปา ทั่วๆๆ ไป เมื่อเราเข้ามาในบริเวณบ่อน้ำพุร้อน เราจะเห็นพระประธานองค์ใหญ่ ตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่ใจกลางสวนย่อม วันที่เอ ไปเห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติคือ มีผึ้งหลวง ไปทำรัง ที่คาง ขององค์พระ ซึ่งถ้าเรามองไกลๆๆ จะเห็นเหมือนพระมีเครา วิวสวยๆๆ มุมสวยๆๆ เหมาะแก่การถ่ายรูป
  สวนย่อม หน้าที่ทำการ จะมีรูปปั้นของสัตว์ต่างๆๆ สวยมาก อยากจะเชิญชวนให้ทุกท่านไปสัมผัส ธรรมชาติของเมืองไทย ไม่ต้องไปไกลถึงต่างแดน Huppatat Uthaithani Thailand หุบป่าตาด ต.ทุ่งนางงาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หุบเขาที่เป็นแหล่งต้นตาด เป็นพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลปาล์ม หุบป่าตาด ที่มาของชื่อหุบป่าตาดเพราะมีต้นตาดจำนวนมากในหุบเขาแห่งนี้ พบเจอโดยบังเอิญของ พระครูสันติธรรมโกศล(หลวงพ่อทองหยด) เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง เมื่อปีพ.ศ.2522 ซึ่งณ เวลานั้นการจะเข้าไปในบริเวณหุบเขา ต้องปีนเขา เข้าไปอย่างเดียวเท่านั้น พระครูท่านจึงได้เจาะปากถ้ำเพื่อเป็นการเปิดทางเข้าไปในปีพ.ศ.2527
ต่อมากรมป่าไม้ได้ประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์ เพราะที่นี่มีสภาพภูมิอากาศที่แปลกและมีพันธุ์ไม้หายาก อยู่ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า การเตรียมตัวในการเที่ยวชมหุบป่าตาด คือไฟฉาย ซึ่งมีให้ยืมณ จุดบริการเข้าชม ซึ่งต้องลอดถ้ำประมาณ100เมตร ภายในถ้ำจะมืดมาก ในทริปนี้เอมีหลานชายชั้นป.6นำทางไปด้วย ซึ่งเรียนอยู่โรงเรียน บุ่งฝาง เป็นโรงเรียนเล็กๆใกล้ไร่เอ
และมีหินงอกหินย้อยให้ชมหลายจุด พอเดินเลยถ้ำเข้ามา เราก็จะมาเจอหุบเขาซึ่งมีต้นตาด ต้นเต่าร้าง ต้นเปล้า ต้นคัดเค้าเล็กอยู่มากมาย
นอกจากหุบป่าตาดแล้วยังมี เขาปลาร้า ซึ่งมีภาพเขียนประวัติศาสตร์อายุประมาณ3,000ปี อยู่ใกล้ๆกัน โอกาสหน้าจะพาไปเที่ยวชมนะคะ
chalaw saroj บ้านไร่ดุษฎีวรรณโฮมสเตย์ สไตล์ลูกทุ่งๆ ที่อยากให้ทุกคนมาสัมผัส วิถีชีวิตชาวไร่ ที่กำลังจะเลือนหายไปตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง บ้านหลังนี้ คือบ้านที่เอเคยอาศัยอยู่ตอนช่วงวัยเยาว์ อายุประมาณตั้งแต่เกิดจน ถึงประมาณ 3-4 ขวบ ก็ต้องย้ายตามคุณพ่อกับคุณแม่ไปทำงานที่อื่น เมื่อสักประมาณ สิบกว่าปีที่ผ่านมา ที่แปลงนี้คุณย่าก็ยกให้เป็นมรดก ซึ่งเอภูมิใจมากๆ กะพื้นแผ่นดินแห่งนี้
ไร่ของเอแปลงนี้ ตั้งอยู่ ในหุบเขา ด้านหลังของไร่จะติดกับ เขาปลาร้า ซึ่งยังคงความอุดมสมบูรณ์ ของธรรมชาติ ที่ยังมีต้นไม้น้อยใหญ่ พันธุ์ไม้หายาก สัตว์ต่างๆ ก็ยังมีให้พบเห็นเช่น ลิง ชะนี เลียงผา ก็มีคนเคยพบเห็นบ้าง



ที่ไร่ดุษฎีวรรณ ของเอ ตอนนี้เอก็ปลูกมันสัมปะหลังเป็นพืชหลัก เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิต ก็ต้องเข้าไปดูและช่วยคนงานทำ สนุกดีมีความสุขกับการทำงานแหม จะเหนื่อย และร้อน มันก็คือความภาคภูมิใจ ของชาวไร่อย่างเรา








รถประจำตำแหน่ง สาวไร่มันสัมปะหลัง ถึงจะไม่โก้ ไม่หรู แต่ก็ขับสนุก ที่สุด ถึงจะไม่แรงเหมือนวีโก้ เหยียบไม่มันเหมือนดีแมค แต่ก็ลุยได้ทุกสภาพถนนนะคะ
เวลาเก็บเกี่ยวผลผลิต คือเวลาที่ทุกคนจะได้มารวมตัวกัน คุยล้อเล่น พร้อมทำงาน ท่ามกลางแสงแดดแผดร้อน แต่ก็ไม่เคยท้อ เพราะมันคือความสุขของเราชาวไร่








 หญิงเหล็ก อย่างเราต้องขับเป็นให้ได้ทุกอย่าง ยกเว้นเครื่องบินยังไม่ได้ลองขับ ถ้าใครสนใจอยากจะใช้ชีวิตชาวไร่ ขอเชิญมาแวะเที่ยวชมได้ ที่บ้านไร่ดุษฎีวรรณ นะคะ โทร. 089-8589051 (โปรดติดตามการลงข้อมูลนะคะ)

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Satun Unesco Global Geopark อุทยานธรณีโลกจังหวัดสตูล สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก แห่งแรกของไทย

masjid in satun มัสยิดธรรมประทีปห้วยน้ำดำ