tarutao island จดหมายจากตะรุเตา ฉบับที่18 เมื่อสวรรค์เดินสวนทางกันกับนรก

"จดหมายจากตะรุเตา ฉลองครบรอบสามทศวรรษ"ของบุญเสริม ฤทธาภิรมย์
ฉบับที่18 เมื่อสวรรค์เดินสวนทางกันกับนรก
บ้านภิรมย์สุข ถนนยาตราสวัสดี สตูล ๑๘ กันยายน ๒๕๕๑

คุณกิ่งกานต์ครับ ตะรุเตาจึงกลายเป็นเกาะร้างนับแต่บัดนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่ากาลครั้งหนึ่ง
 บริเวณอ่าวตะโละวาวและอ่าวตะโละอุดัง บางช่วงมีผู้คนอาศัยอยู่ร่วม ๓,๐๐๐ คน เป็นชุมชนขนาดใหญ่ ถ้านับจำนวนคนที่หมุนเวียนเปลี่ยนหน้ามาอยู่ชั่วคราวแล้วจากไป ระยะเวลา ๘- ๙ ปี คงมีจำนวนหลายพันคน อาจจะเหยียบหนึ่งหมื่นก็เป็นได้ น่าเสียดายที่ไม่สามารถสืบค้นข้อมูลนี้ได้

หลังจากปี พ.ศ.๒๔๙๑ ตะรุเตากลายเป็นเกาะร้างเงียบเหงาราวป่าช้าไปได้ ผู้คนไม่กล้าบุกรุกเข้าไปตั้งหลักแหล่ง เพราะยังเป็นเขตหวงห้ามของกรมราชทัณฑ์ แต่ก็มีคนลองดีจนได้ มีผู้ลักลอบเข้าไปขโมยทรัพย์สินของทางราชการ เช่น งัดไม้กระดาน เครื่องเรือนไปสร้างที่อยู่อาศัยของตน ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เก็บเกี่ยวพืชผลที่ยังหลงเหลืออยู่ บ้างก็เข้าไปหักร้างถางพง จับจองเป็นที่ทำกิน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็มีเสียงเล่าลือว่า

โจรสลัดได้ซุกซ่อนทรัพย์สมบัติเช่นทองคำแท่ง ของมีค่าไว้ตามถ้ำ หรือในป่าเขา เป็นปริศนาลายแทงที่ท้าทายให้คนรุ่นหลังเข้าไปค้นหา จากประจักษ์พยานจากคำบอกเล่าของนายเอ๊ะ เกปัน หรือ โต๊ะเอ๊ะ ชาวอำเภอควนโดน อดีตนักโทษเกาะตะรุเตาที่เคยถูกกักกันที่นั่น ๔ ปี หลังจากนั้นก็ถูกส่งตัวไปขังต่อที่เรือนจำกลางบางขวาง เล่าให้ฟังว่าก่อนพ้นโทษ
โต๊ะเอ๊ะได้พบกับขุนอภิพัฒน์สุรทัณฑ์ที่คุกบางขวางโดยความบังเอิญ ขุนอภิพัฒน์สุรทัณฑ์ได้ขอร้องให้นายเอ๊ะ ช่วยพาพวกญาติ ๆ เดินทางไปชี้สถานที่ฝังทรัพย์ที่ตะรุเตาด้วย

 อย่างไรก็ตาม ยังมีนักแสวงโชคลาภเข้าไปขุดค้นหาทรัพย์สิน ที่คาดว่าโจรสลัดซุกซ่อนไว้ตามป่าเขา ในถ้ำมาเป็นระยะ โดยเฉพาะในช่วงก่อนการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้โชคดีบ้าง หรือประสบความสำเร็จแต่อาจเก็บเงียบ ไม่กล้าโวยวายก็เป็นได้ แน่นอนที่สุดสิ่งของเครื่องใช้ที่พบกันบ่อยมาก ได้แก่ โซ่ ตรวน หัวกะโหลก และโครงกระดูก ล้วนเป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจและชวนสลดมากกว่ายินดีปรีดาเป็นไหน ๆ นับว่าทางการไหวทัน ก่อนทุกสิ่งทุกอย่างจะสายไป มิฉะนั้นแล้วภูเขาบนเกาะต้องกลายเป็นภูเขาหัวโล้น ผืนป่าทั้งเกาะคงแปรสภาพเป็นดงหญ้าคาหรือที่ทำกินชาวบ้านเป็นแน่แท้
รัฐบาลได้ออก พระราชกฤษฎีกาถอนการหวงห้ามของกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๕ จัดตั้งเกาะตะรุเตาเป็นเขตอุทยานทางทะเลแห่งชาติ ล่วงมาวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๑๗ พระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่ก็ออกตามมา กำหนดให้หมู่เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เป็นเขตอุทยานทางทะเลแห่งชาติทั้งหมด

 คุณกิ่งกานต์ครับ... ๑๙ เมษายน ๒๕๑๗ คือวันจัดตั้งอุทยานแห่งชาติตะรุเตา สวรรค์จึงลอยลงมาในวันนี้เอง
นับแต่ทางราชการประกาศตั้งเกาะตะรุเตา และหมู่เกาะใกล้เคียงเป็นอุทยานทางทะเลแห่งชาติแล้ว กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการศึกษาวิจัยสภาพแวดล้อมของเกาะ ปูทางสู่การจัดตั้งอุทยานและการสงวนทรัพยากรธรรมชาติ
 ดำเนินการสำรวจพื้นที่ระหว่างวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๑๗ ถึงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๑๗ ใช้เวลา ๑๙ วัน มีผู้ร่วมสำรวจไม่น้อยกว่า ๕๐ คน เมื่อสิ้นสุดโครงการก็ได้เสนอผลการวิจัยชื่อ รายงานการสำรวจเบื้องต้นอุทยานทางทะเลแห่งชาติ เกาะตะรุเตา ผมอ่านรายงานเล่มนี้โดยตลอดแล้ว น่าสนใจมากที่เดียว แม้บางตอนจะรกรุงรังด้วยตัวเลข หนักทางวิชาการไปหน่อย แต่ต้องขอชมเชยในความพยายามของบุคคลกลุ่มนี้
 ล่วงมาในปี พ.ศ.๒๕๑๘ มหาวิทยาลัยมหิดลวางโครงการศึกษาและวิจัยสิ่งแวดล้อมบริเวณอุทยานแห่งชาติตะรุเตาอีกครั้ง ระหว่างวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๑๘ เป็นเวลา ๒๔ วัน เป็นการฝึกภาคสนามของนักศึกษาระดับมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการบริหารสิ่งแวดล้อม คณะผู้สำรวจเสนอรายงานการสำรวจอุทยานทางทะเลแห่งชาติตะรุเตา ครั้งที่ ๒ มีรายละเอียดเพิ่มเติมจากครั้งแรก น่าสนใจมากเชียวครับ สรุปสาระสำคัญของรายงานการวิจัย การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติมีจุดประสงค์สำคัญสามข้อ ได้แก่
 เพื่อป้องกันทรัพยากรตามธรรมชาติ เพื่อการศึกษาค้นคว้า และเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
 ตะรุเตามีทรัพยากรมากมายทั้งบนบกและในน้ำ จำเป็นต้องอนุรักษ์ไว้ให้คงสภาพเดิมมิให้ถูกทำลายหรือเปลี่ยนสภาพไป ให้คนส่วนใหญ่ได้มาศึกษาหาความรู้ ได้ชื่นชมกับธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งนับวันจะหาชมได้ยากยิ่งขึ้นทุกที ทุกวันนี้ คนไทยตื่นตัวเรื่องการท่องเที่ยวกันมาก พยายามเสาะแสวงหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ แปลกหูแปลกตา
 อุทยานแห่งชาติตะรุเตาเป็นสถานที่ท้าทายแห่งหนึ่ง เพราะมีธรรมชาติที่หลากหลายมาอยู่รวมกันทั้งบนบกและในน้ำ ใครสนใจประเภทไหนก็เลือกได้ดั่งใจ เช่น
บนบกนักท่องเที่ยวอาจเลือกล่องไพรเที่ยวป่าชมสัตว์นานาชนิด ปีนหน้าผาสูงชัน แวะอาบน้ำตกกันให้ชุ่มฉ่ำ แล้วหลบเข้าถ้ำชมหินงอกหินย้อย เที่ยวชมคุกประวัติศาสตร์ที่ระคนด้วยความหฤโหด สัมผัสกับชีวิตชนกลุ่มน้อยชาวเล เบื่อบรรยากาศธรรมชาติบนบก ลองแวะ
ลงน้ำหรือชายทะเลดูบ้าง ตะรุเตามีหาดทรายสวยงาม น้ำทะเลสีสดใสสะอาด ปะการังหลากหลายสายพันธุ์ สัตว์น้ำหลายประเภท ตะรุเตาจึงตอบสนองความต้องการของผู้ไปเยือนได้อย่างกว้างขวาง อุทยานแห่งชาติตะรุเตาจึงเปรียบได้กับ ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือห้างสรรพสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

ฉบับต่อไป ผมจะแนะนำให้คุณกิ่งกานต์รู้จักอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ได้ชมความงามตามธรรมชาติทั้งบนบกและในน้ำ อดใจอ่านต่อฉบับหน้านะครับ
 หวังว่าคุณคงสุขสบายดี
ด้วยความระลึกถึงเสมอ พงษ์สันต์ ตอนที่2

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Ancient stone bridge สะพานกำปงกะได สะพานหินโบราณ หลักฐานที่ ยืนยันความยิ่งใหญ่แห่งอำนาจของอาณาจักรขอม

Supersale3x เกมส์ธุรกิจ ลิขิตอนาคต ต้นหอม เคียงพิม นักธุรกิจวัย6ขวบ จากการเล่นเกมส์ธุรกิจด้วยเงินปลอม มาสู่เงินจริง

Soccer Genesis ปฐมนิเทศน์ โครงการทุนฟุตบอลเยาวชนเฉลิมพระเกียรติองค์ราชัน ปีที่2